เป็นกันบ้างไหม? อยู่ดีๆก็เบื่ออยากเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ลางานได้ไม่กี่วัน ตัวเลือกแรกของเราที่นึกถึง คือ สิงคโปร์ สำหรับเราก็ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้ว …
แต่เราก็ยังไปไม่ครบสักทีทั้งแลนด์มาร์คที่เคยเห็นมาในเว็บต่างๆ สำหรับรอบนี้เราออกเดินทางช่วงปลายเดือนเมษา62 อากาศกำลังร้อนๆเหมือนกับบ้านเรา แต่ระหว่างทริปก็มีวันที่ฝนตกเหมือนกันนะ
4 สถานที่ห้ามพลาดในสิงคโปร์
วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวสิงคโปร์ในมุมใหม่ๆที่ อัพเดทในปี2019 ทั้งคาเฟ่เปิดใหม่, ร้านอาหารที่ไม่ควรพลาด และ แน่นอน มุมถ่ายรูป แลนด์มาร์ค ที่เมื่อมาถึงสิงคโปร์แล้วในช่วงนี้ ไม่ควรพลาดอะไร
พิกัด : สนามบิน ChangiAirport T1
บอกได้คำเดียวว่า ตระการตา อวาต้าสุดๆ เขียวสดชื่นและที่สำคัญ น้ำตกนี้มีกลิ่นหอมออกมาด้วยครับ เราไม่แน่ใจว่า เขาพ่นหรืออย่างไร แต่กลิ่นน้ำหอมเหมือน น้ำเปล่า infused water เลยละครับ Jewel แห่งนี้มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมาก มีหลายมุมมากๆ และตอนนี้ความนิยมคนมาสถานที่นี้ค่อนข้างสูง แนะนำว่า ถ้ามาแต่เช้าได้ก็มาได้เลยครับ น้ำน่าจะเปิด 9โมงเช้าเป็นต้นไปครับ
พอถึงสนามบิน ถ้าใครอยากแวะไป Jewel ให้มองหาป้ายนี้ครับ และเดินตามไปได้เลย
“Jewel มุมโปรดของเรา พร้อมกับได้กลิ่นน้ำหอมๆตลอดเวลา มุมนี้จะอยู่ชั้น 4ครับ จะมีทางเข้าข้างๆ ร้าน Gift by changi airport เงียบและมีคนน้อยมากๆ “
2.ArtScience Museum future world ASM by teamLab
พิกัด : ใกล้ๆ Marina Bay Sands
เดินออกมาจากMarina Bay Sands จะเจอกับตึกทรงแปลกตา ชื่อว่า ArtScience Museum
มีการแสดงงานศิลปะที่น่าสนใจหลากหลายงาน แนะนำว่า ต้องไปเลยครับที่นี้ สำหรับ งานที่ผมเข้าไปดู คือ Future World ASM แนะนำว่าถ้าอยากได้รูปสวยๆที่นี้คือตอบโจทย์มากๆเลยครับ
Future World WERE ART MEETS SCIENCE
คืองานแสดง แสงสีเสียง จากทีมงาน Teamlab ที่มีการจัดมาแล้วหลายประเทศ ทั้ง ญี่ปุ่นและโซนยุโรป ราคาตั๋ว อยู่ที่ 19 เหรียญ (ประมาณ 475 บาท) เขาจะมีรอบการเข้าชม เป็นรอบๆด้วยนะครับ Future World ASM จะถูกแบ่งออกหลายโซนด้วยกัน เราใช้เวลาอยู่ที่นี้หลายชั่วโมง แต่ได้ภาพสวยๆมาเพียบ
Future world WERE ART MEETS SCIENCE ทุกการเคลื่อนไหวล้วนมีการเปลี่ยนแปลง
เราสามารถเล่นกับแสงสีและเสียง จะมีการขยับตามเราตลอดเวลาครับ
ลูกเด็กเล็กแดงนี้ชอบกันมาก วิ่งกันให้วุ่น แนะนำว่าใครที่จะมาเป็นครอบครัว ไม่ต้องกลัวครับ ลองพาน้องๆมาดูนะครับ ราคาสำหรับเด็กถูกกว่าผู้ใหญ่อย่างเราอีกด้วย ผมสังเกตเด็กหลายคนชอบ สำหรับ interactive art ในห้องนี้แบบว่าไม่ลุกไปไหนเลยครับ
บางครั้ง เราก็อยากวาดอะไรให้มันขึ้นไปบนจอเหมือนกัน ถ้าสังเกตจะเห็นหลายวัยหลายคนกำลังวาดรูปกันอย่างสนุกสนาน
ขีดๆเขียนๆ และจะขึ้นไปบนกระดานใหญ่ก็มีนะครับ ต่อมาจะเป็นโซนสุดท้ายที่ผมชอบมากที่สุด และโซนนี้ละที่ผมได้รูปโคตรเยอะ
ความอลังการของโซนสุดท้ายที่ผมบอกครับ เพลินมากก ถ่ายรูปสนุกมากกกก
” ทริกเล็กๆ สำหรับทุกคน ผมคิดว่าการใช้มือถือถ่ายก็สวยเหมือนกัน สีสันจากมือถือโดยส่วนตัว
เราชอบมากกว่ากล้องใหญ่ครับ ถ้าใครอยากเก็บบรรยากาศ ใช้มือถือเลยครับ เวิคมากก สวยมากกก “
พิกัด : รถไฟฟ้า MRT สายสีเขียว / น้ำเงิน ลงสถานี Bugis exit B
มุมถ่ายรูปเยอะมาก ของกินไม่ค่อยเยอะเท่าไร ตลาดคนเดินที่เราชอบที่สุดในสิงคโปร์ เพราะเดินไปเรื่อยๆก็จะมีโซนร้านเหล้าเบียร์ที่เปิดแต่หัววัน ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายอยากกระดกสักแก้ว เดินไปเรื่อยๆก็ใกล้ๆ Bugis street ที่สามารถซื้อของฝากได้เลยที่นี้
พิกัด : Underground crossing, Fort Canning Park
Underground crossing สำหรับมุมถ่ายรูปที่ผมชอบและประทับใจมากๆ
อุโมงข้างสวน Fort Canning Park ที่ผมใช้เวลารอเพื่อจะได้รูปถึง 1ชั่วโมง เพราะทุกคนต่อแถวเป็นระเบียบ ถ่ายจนได้มุมที่ตัวเองคิดว่าสวยจริงๆ ต่างคนต่างช่วยกันถ่ายให้กัน และส่งให้กัน รูปที่ถ่ายสวยจริงๆครับ
สิ่งที่รู้สึกประทับใจกับสิงคโปร์อีกอย่างคือ ความเขียวระหว่างทางถึงเขาจะเป็นประเทศที่เล็ก แต่เขาก็ยังรักษาธรรมชาติไว้อย่างยั่งยืน มองไปทางไหนก็เขียว ภายในตัวเมือง ระหว่างทางเราเดินดูเมือง ถึงบรรยากาศจะร้อน แต่ยังมีลมตลอดเวลาเป็นการอยู่ร่วมกันระหว่างธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างใหม่ได้ดีมากๆ
รสชาติอาหารของร้านอาหารที่นี้
เขาไม่เน้นปรุงเครื่องปรุงจัดจ้านแบบบ้านเรา แต่ทุกอย่างมีความหอมเตะจมูกมากๆ โดยเฉพาะ บะกุ๊ดเต๋ ที่นี้มีความหอมของน้ำซุปและพริกไทยที่ชัดเจน
สำหรับ ร้านบะกุ๊ดเต๋ที่เราอยากจะแนะนำมีอยู่ 4 ร้าน สามารถเลือกได้เลยใกล้ที่ไหน
1. Song Fa Bak Kut Teh 松發肉骨茶
2. 333 Bak Kut Teh
3. Tuan Yuan Pork Ribs Soup 团缘肉骨茶
4. Ng Ah Sio Pork Ribs Soup Eating House
คาเฟ่ที่เราได้ไปมา Apartment ร้านกาแฟอีกร้านที่พึ่งเปิดมาได้ไม่นาน เปิดเข้าไปในร้าน เราโคตรชอบบรรยากาศและความเป็นกันเองของเจ้าของร้าน ถ้าใครได้มีโอกาสมาแถวโซน Lavender Street ก็มาได้เลยครับ ที่สำคัญมี ช็อคโกแลตหลายๆแบบให้ได้ซื้อกลับด้วย
Two Men Bagel House ร้านเบเกิ้ลที่เป็นมากกว่าเบเกิ้ลธรรมดา มีหลายแบบมาก ขนมปังหอมเฟ้อสำหรับ 2ร้านนี้เดียวจะเขียนในบทความต่อไปนะครับ
ผู้ช่วยสำคัญสำหรับนำทาง Google Map app เดียวจบความฉลาดของที่นี้คือ พิกัดตรงเป๊ะ เวลารถบัสประจำทาง รถไฟ แม่นยำ และที่เราชอบมากๆจะบอกปริมาณของความหนาแน่นของคนในรถด้วย
สำหรับที่พักและการเจาะลึกของแต่ละร้าน มุมถ่ายรูป เราจะมาเขียนแบบจัดเต็มในโพสต่อไปนะครับ สำหรับโพสนี้ขอเป็นการแนะนำรวมๆก่อนกลัวทุกคนจะอ่านแล้วเบื่อ ไปเที่ยวกับเรากันเลยย!!
งบประมาณ : ค่าที่พัก+กิน+เดินทาง+ตั๋วเครื่องบิน 6,970.- บาท
สายการบิน : Jetstar Asia ราคาตั๋วที่ได้ ไปกลับ 3,000.- บาท
Sim card : เราใช้ของ AIS Sim2fly 400 บาท / 8GB สัญญาณโอเค
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม : VisitSingapore
ถ้าชอบอย่าลืม กด Like กด Share กันด้วยนะขอขอบคุณที่ติดตามนะครับ
Leave a Reply