เสพงานศิลป์ที่ “กรุงเวียนนา” 4วัน 3คืน

ถ้าใครกำลังมองหาเมืองที่มีความคลาสสิค โรแมนติก และมีงานศิลปะระดับโลกอยู่ กรุงเวียนนา ถือว่าเป็นอีกเมืองที่อยู่ในตัวเลือกต้นๆของเราที่จะแนะนำ …

ทริปนี้เป็นทริปยุโรปตะวันออกยาว 3ประเทศ เราอยู่เวียนนา 4วัน 3คืนครับ

เราถึงเวียนนาด้วยร่างกายที่อิดโรยประมาณ เที่ยงครึ่งไม่มีอาการง่วงแต่หิวมาก สนามบินเวียนนาค่อนข้างเล็กขนาดกำลังดีเดินไม่นาน เราเดินตามทางไปด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อนครับ เราพึ่งเคยมายุโรปครั้งแรกเลยรู้สึกกลัว ตม. ระหว่างที่รอคิวหัวใจนี้เต้นตุบๆเลยครับ พอถึงคิวบุ้ป ไม่ถึง 10วิ ก็เสร็จ รู้สึกว่าน่าจะเพราะ เรามีวีซ่าอยู่แล้วและเราดูเป็นเด็กเรียบร้อยเลยไม่ได้ตรวจอะไร (จริงๆเขาแทบไม่มองหน้าด้วยซ้ำ)
เดินตามทางไปรับกระเป๋าต่อ สำหรับใครจะเข้าเมืองด้วยรถไฟ ลองดูวิธีของเราดูนะ

ภาพพวกนี้คือ ลายแท่งที่รุ่นพี่เราที่มาก่อนเขาทำไว้ให้ (ดูยากหน่อยแต่เราทำเขียนแบบชัดเจนไว้ข้างล่างให้แล้วนะครับ)

วิธีเข้าเมืองด้วยรถไฟ >>> สำหรับเราต้องไป สถานที Museumsquertier

ให้มองหาป้าย Ausgang Wien Exit Vienna ออกช่วงสีเขียวได้เลยถ้าไม่มีอะไรต้องสำแดง
ออกมาจะเจอประตู ให้เดินมาทางขวาจะเจอทางลาดลงไปสถานีรถไฟ กระเป๋าใหญ่ๆนี้สบาย
พอลงมาเสร็จ มองหาป้ายตารางรถไฟแบบLCD ดูเวลาไว้ ส่วนเราจะเข้าเมืองไป S7 ปลายทางคือ Wien Floridsdorf และจะไปต่อ
เราดูเวลาเสร็จ เดินไปซื้อตั๋ว ตู้สีแดงๆได้เลยครับ อย่าลืมกด Eng นะ เลือก Vienna ต่อด้วยเลือกจำนวนคน ฝั่งขวาถ้าเราไม่มีอะไรก็ไม่ต้องไปติ๊กนะ Nextได้เลย
จะมีโชว์ ข้อมูลทั้งหมด เช็คเวลาให้ดี ถ้ามีหน้าให้เลือก S7 ก็กดเลือกและ กดจ่ายตังที่ปุ่มราคา และจ่ายตังได้เลย จะได้ตั๋วมาครับ
ลงบันไดเลื่อนไปชั้นล่าง (ขึ้นบันไดเลื่อนให้ยืนชิดขวา ด้านซ้ายไว้สำหรับคนที่เร่งรีบเหมือนบ้านเรา)
มองหน้าป้าย ชานชาลา ปลายทางที่จะไป ส่วนเรา เป็น Floridsdorf ให้ขึ้นฝั่งนั้นเลย *จุดสังเกตคนจะยืนรอเยอะ รถไฟค่อนข้างตรงเวลา อย่าลืมเผื่อเวลากันไว้ด้วยนะครับ
ในรถจะมีป้ายบอกว่าถึงไหนแล้ว เราต้องลงป้าย Wien Praterstern ก่อนเพื่อจะต่อรถไฟอีกอัน ตอนลงถ้าประตูไม่เปิดให้กดปุ่มเปิดข้างๆประตูได้เลย
ออกจากรถไฟ ลงตามป้าย สีม่วง U2 ไปเรื่อยๆ แล้วจะเจอตู้ชายตั๋วรถไฟ ซื้ออีกรอบ อันนี้เป็นแบบตั๋วเหมาชั่วโมงนะครับ ราคาแตกต่างกันไป เราอยู่ที่นี้ 3วันเลยซื้อแบบ 72 ชั่วโมง
ได้ตั๋วแล้ว ทางเข้าจะมีเครื่องนี้ อย่าลืมเสียบปั้มเวลา (ทำเฉพาะครั้งแรกเท่านั้น) สำคัญนะครับอย่าลืมปั้มเลยเพราะถ้าโดนตำรวจรถไฟตรวจเราจะลำบากโดนปรับหลายบาทครับ
เดินลงมาชานชาลาให้นั้งฝั่งที่ปลายทางคือ Karlspatz สถานี ที่เราจะลงคือ Museumsquertier ถึงแล้วจ้าา

สถานีใต้สนามบินครับ บรรยากาศการรอรถเข้าเมือง สุดสังเกตจะมีคนรอเยอะๆ

” วิธีเดินทาง และ การใช้ GOOGLE MAP
ถ้าเราซื้อตั๋วเหมาเป็นวันแล้ว เราสามารถที่จะนั้งรถบัสหรือรถไฟใต้ดิน หรือ รถ รางก็ได้ครับ สำหรับการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ GOOGLE MAP คือ The best “

ที่เวียนนาเราพักตรงย่านสถานที Museumsquertier โซนที่เราพักมีอะไรเที่ยวได้บ้าง ?
1. ตลาดนัด Naschmarkt
2. Museum of Modern Art Ludwig Foundation (MUMOK)
3. Stephansplatz and Stephan’s Cathedral
4. Hundertwasserhaus
5. WU Vienna University Economics Business
6. Wiener Prater

” 6 สถานที่เช็คอินห้ามพลาด Vienna the city of music “

1. เดินเล่นตลาดนัด Naschmarkt

วิธีเดินทาง : พอขึ้นจากสถานทีรถไฟ Kettenbruckengasse ขึ้นมาปุ้ปก็จะเจอตลาดเลยครับ (เราพักแถวๆ Musuemquartier เดินไปประมาณ 800 เมตรก็ถึงตลาดเลย)

ตลาดนัด Naschmarkt ตลาดนัดแห่งนี้เป็นตลาดนัดเก่าแก่ที่สุดของกรุงเวียนนา เปิดมานานเป็นร้อยๆปีแล้ว ว่ากันว่าตลาดนี้เป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดของเวียนนากันเลยทีเดียว ที่นี่นับว่ามีขายทุกอย่าง ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ สมัยศตวรรษที่ 16 ที่นี่มีชื่อเสียงจากการขายนมสด จนมีการปรับเปลี่ยนเรื่อยมา ตอนนี้ที่นี่มีทั้งอาหาร ของสด ต้นไม้ ดอกไม้ เสื้อผ้า ไปจนถึงของมือสอง ของเก่า ภาพวาด เสื้อผ้าวินเทจ ของใช้ในบ้าน เครื่องทองเหลือง ตลาดเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า วันนี้เราไปถึง 8 โมงเช้าคนก็แน่นแล้วครับ ส่วนใหญ่ที่มาเดินกันคือคนท้องที่ แต่มีนักท่องเที่ยวบ้างเล็กน้อย คงเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ คนเวียนนาเลยออกมาเดินกันเยอะ ช่วงเช้าอากาศดีมากๆ แดดอ่อนๆ น่าเดินที่สุด

ของขายมีแบบตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบจริงๆ

ต่อจาก ตลาดนัด Naschmarkt เราก็เดินกันไปที่ Museumsquertier เพื่อจะไปดูงานศิลปะ ที่ Museum of Modern Art Ludwig Foundation MUMOK

เห็นประตูสีเขียวๆ โค้งๆนั้นละครับคือทางเข้าฝั่งนี้ ระหว่างทางก็จะเจอการเปิดแสดงคอนเสิร์ตเล็กๆ

2.เสพงานศิลป์ที่ Museum of Modern Art Ludwig Foundation (MUMOK)

วิธีเดินทาง : ถ้าใครไม่ได้พักแถวนี้ นั้งรถไฟมาลงสถานี Museumsquertier ขึ้นทางออก U2 มาปุ้ปก็จะเจอทางเข้า MUMOKเลย

MUMOK คือพิพิธภัณฑ์แห่งศิลปะที่ใหญ่ที่สุดของเวียนนา งานแสดงโชว์ที่จัดแสดงจะมีหลากหลาย นานาประเทศเลย ตอนเราไปจะเป็นช่วงที่งานไม่ค่อยมีครับ เลยได้แต่เก็บภาพอยู่ภายนอก ที่นี้ก็ถือว่าเป็นจุดนัดพบที่วัยรุ่นของเมืองนี้จะมานั้งคุยกันนอนรับแสงแดด เดินเล่น ดื่ม มีมุมถ่ายรูปเยอะ ลองดูตามภาพได้เลยครับ สามารถมาถ่ายพรีเวดดิ้งแบบเล็กๆ ส่วนตัวเราชอบที่สุดคือ ตู้ถ่ายรูปโบราณ Photoautomat ที่จะถ่ายเป็นภาพขาวดำแบบ 4 แอคชั่น ในราคา €2 ถือว่าถ่ายเก็บความทรงจำว่าเคยมาที่นี้ ถ้าใครจะมาที่นี้แต่ไม่อยากเดินดูงานศิลปะ ก็จะมีบาร์กลางแจ้งไว้นั้งคุยกันหรือเสพบรรยากาศ, ร้านขายงานดีไซน์กรุ๊บกริ้บๆ มีบูท Freitagเล็กๆด้วย

” ตอนเราไปจะเป็นช่วงที่งานแสดงโชว์ไม่ค่อยมีครับ แนะนำว่าลองเช็คในเพจของ MUMOK ก่อนนะครับว่ามีงานอะไรบ้าง เราเลยได้แต่เก็บภาพอยู่ภายนอก “

ตู้ถ่ายรูปโบราณ Photoautomat ที่จะถ่ายเป็นภาพขาวดำแบบ 4 แอคชั่น ระหว่างเดินเล่น ก็จะเจอวัยรุ่นไถสเก็ตบอร์ด คนที่นี้ฮิตเลยครับ เดินไปที่ไหนก็จะได้ยินเสียงมาแต่ไกล!

บูท Freitagเล็กๆ ช่วงที่เราไปมีการจัดงานปาร์ตี้กลางแจ้งด้วย เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ Hofburg Palace

ระหว่างทางจะเจอ รถม้าสวยๆใครอยากนั้งก็ลองได้เลยครับ อากาศช่วงที่เราไป ประมาณ 16-20องศากำลังดี (ช่วงที่ไป 17-27 พค 2562)

3. ไปดู Stephansplatz and Stephan’s Cathedral ด้วยตา

วิธีเดินทาง : ลงสถานี Stephansplatz (ส่วนเราเดินจาก MUMOK มาเรื่อยๆครับดูพวกตึกบ้าน ราชวังอื่นๆตลอดทาง)

เราเดินมาเรื่อยๆจาก Mumok และก็มาถึง ถนนชอปปิ้ง Graben แหล่งช้อปปิ้งของแบนด์เนมและของฝากมามาย ถนนช้อปปิ้งนี้จะปิดค่อนข้างเร็วนะครับแพลนกันมาเช้าๆนะ และที่สำคัญวันอาทิตย์ไม่เปิดสักร้านจ้าา อากาศช่วงที่เราไปประมาณ 18 องศา ทำให้เดินได้เรื่อยๆ จนเดินมาถึง มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น สัญลักษณ์ของเวียนนา ของจริงสวยกว่าในรูปมากๆครับ รู้สึกเลยว่ามันอลังการจนรู้สึกขนลุก ตอนเราอยู่ข้างหน้ามีการร้องเพลงประสานเสียงกันด้วย เพลินไปอีกแบบ ตรงแถวโซนนี้จะมี หลายๆพระราชวังให้เราเดินถ่ายรูปฝึกมือกันได้เลย

ใครจะเดินไปแบบเรา เดินตามยอดโบสถ์แหลมๆนั้นไปครับ บรรยากาศในตัวโบสถ์ มีการร้องเพลงประสานเสียงกันด้วย เพลินไปอีกแบบ

เริ่มเข้าสู่ถนนแห่งการชอปปิ้งครับ ตรงนี้ใครอยากซื้อของฝากก็สามารถซื้อได้เลยครับ และ Shopที่นี้ปิดวันอาทิตย์นะครับ

เราเริ่มเดินเล่นทะลุตรอกซอกซอย ระหว่างเดินไปก็จะเจองานศิลปะทั้งโชว์และขายอยู่ตามข้างทาง

4. Hundertwasserhaus อพาร์ทเม้นท์เบี้ยวๆ

วิธีเดินทาง : รถราง(Tram) หมายเลข 1 ไปลงสถานี Hetzgasse

อพาร์ทเม้นท์นี้ คืออีกจุดที่เราเดินมาเรื่อยๆจากพระราชวัง เห็นเขาบอกว่าเป็นงานของศิลปินชื่อดัง ฟิลลิ่งกลมกลืนกับธรรมชาติมากๆ มีความแฮรี่พอตหน่อยๆ แถวๆนั้นจะมีร้านขายของฝากเยอะเหมือนกัน ลองเช็คราคากันดีๆนะครับบางร้านราคาค่อนข้างสูงอยู่ โดยรวมบรรยากาศดีเหมาะแกการมาถ่ายรูปและดูความสวยงามบริเวณนี้ครับ

มุมเวลาถ่ายบุคคล ก็จะหวานๆประมาณนี้ครับ >,,<” รถมาก็วิ่งบนถนนโซนอื่นด้วยนะครับ

5. WU Vienna University Economics Business ไปดู งานสถาปนิกดังระดับโลก Zaha Hadid

วิธีเดินทาง : ลงรถไฟ สถานี Messe-Prater

ถ้าใครอินกับการดูสถาปัตยกรรมตึกกับอาคารสวยๆต้องชอบมหาลัยนี้แน่ๆ เพราะทุกอาคารที่นี้มีความเป็นเอกลักษณ์เด่นชัดมาก งานท่ีอลังสุดๆคือ ห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ Library and Learning Center ที่เป็นของ สถาปนิกระดับโลก ซาฮา ฮาดิด เรานั้งมองและถ่ายรูปเพลินมากๆ มีตึกสวยๆอีกหลายตึก ที่นีใช้เวลาได้เกือบครึ่งเช้าทั้งวันเลย ข้างๆมหาลัยจะมีสนามม้าด้วยนะครับ อยู่ข้างหลังสุดลองเดินไปดูได้ครับ

สถานีรถไฟของเขาก็ใช้แสงจากธรรมชาติด้วย สถานีรถไฟของเขาก็ใช้แสงจากธรรมชาติด้วย

Library and Learning Center Zaha Hadid

ตึกอื่นๆที่มีความเป็นเอกลักษณ์สุดๆ

เราเดินตามเสียงมาก็เลยได้เจอสนามแข่งลากม้าอันนี้ครับอยู่ข้างหลังมหาลัย ใครอยากมาดูเดินมาได้เลย ลุงมีความมุ่งมั่นสุดๆ ขอให้ชนะนะลุง

6.Wiener Prater สวนสนุกในกลางเมือง

วิธีเดินทาง : นั่งรถราง(Tram) ไปสถานี Messe Prater ไปสุดสาย (ส่วนเราเดินจาก WU Vienna University Economics Business ผ่านสวนสาธารณะตรงข้างๆตึกเรียน)

สวนสนุกแห่งนี้ขึ้นถือเป็นสวนสนุกที่ใครมาเวียนนาแล้วต้องมาเช็คอินกันหน่อย เครื่องเล่นมีหลายแบบทั้งสายรถไฟเหาะหรือจะเป็นชิงช้าแกว่งขา ถ้าใครชอบดูหนังฝรั่งบ่อยๆพอมาที่นี้ได้จะรู้สึกถึงอารมณ์สวนสนุกในหนังเลยครับ ตอนที่เราไปเกมส์ที่ดูได้รับความนิยมแบบสุดๆคือ เจ้าบ้านซอมบี้ ใจเรานี้อยากเข้าไปเล่นมากๆแต่ไม่มีใครเล่นด้วยเลย สุดท้ายเลยไม่ได้ลอง ถ้ามีโอกาสกลับมาใหม่จะต้องโดนแน่นอน

บรรยากาศของสวนสนุกที่นี้

เกมส์ที่ดูได้รับความนิยมแบบสุดๆคือ เจ้าบ้านซอมบี้

เสียงกริ้ดลั่นสวนสนุก เครื่องเล่นแต่ละอย่างหวาดเสียวแบบสุดๆ ขอแนะนำว่าถ้าควรลอง

ครบแล้วสำหรับ 6ที่ห้ามพลาด โดยส่วนตัว สิ่งที่ชอบที่สุดในเวียนนาคือความเรียบง่ายของการใช้ชีวิต และการเดินทางที่สะดวกสบายจนอยากจะอยู่ที่นี้เลย ในบทความหน้าเราจะมารีวิวร้านอาหารและคาเฟ่ที่เราได้ไปโดนมา ขอขอบคุณทุกๆการติดตามครับ ไว้เจอกันครับ

?งบประมาณ : ค่าที่พัก+กิน+เดินทาง+ตั๋วเครื่องบิน+วีซ่า 65,000.- บาท ราคา 3ประเทศ 10 วันนะครับ
✈️สายการบิน : Emirates airline
?Sim card : เราใช้ของ AIS sim2fly 899 บาท / 6GB นาน 15 วัน แต่วันที่ 8ก็เริ่มหมดละ

สามารถอ่านทริปยุโรปอื่นๆได้ที่ข้างล่างนี้ได้เลยครับ

6 ร้านเด็ดใน “กรุงเวียนนา” บอกเลยห้ามพลาด!

“ปิรัน” เมืองตากอากาศที่เงียบสงบ และ คุมโทนมาก

“ลูบลิยานา” เมืองหลวงแห่ง Street Art และ ความรัก

“เบลด” เมืองเล็กๆที่แสนโรแมนติก ของสโลวีเนีย